ท่านต้องการดูแลสุขภาพหรือไม่?
จะขอความช่วยเหลือได้ที่ไหน
ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ความเจ็บป่วยร้ายแรง หรือเหตุการณ์ร้ายแรงอื่น ให้โทรแจ้งสายด่วนฉุกเฉินทางการแพทย์ 113 ท่านต้องพูดภาษานอร์เวย์หรือภาษาอังกฤษเวลาท่านโทรมายังศูนย์บริการฉุกเฉินเหล่านี้
บ่อยครั้งท่านอาจรู้สึกลังเลว่าจะโทรมาหาศูนย์บริการฉุกเฉินหรือไม่เวลาที่ไม่มีเรื่องน่ากังวลใจ แต่โทรมาบ่อยเกินไปก็ดีกว่าโทรมาน้อยเกินไป
ให้ติดต่อศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน (legevakt) เมื่อท่านจำเป็นต้องได้รับการดูแลฉุกเฉินเวลาที่แพทย์ของท่านไม่ว่าง ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินนี้เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง
ถ้าท่านจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือระหว่างช่วงเวลาทำการ กรุณาติดต่อแพทย์ของท่านก่อน
เบอร์โทรศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินในประเทศนอร์เวย์คือ (+47) 116 117 ถ้าท่านโทรมาเบอร์นี้ เราจะโอนสายไปยังศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินที่ใกล้ท่านที่สุด
ปกติแล้วแพทย์ของท่านหรือแพทย์ทั่วไป (fastlege) คือบุคคลแรกที่ท่านควรติดต่อเมื่อมีปัญหาสุขภาพใดๆ
ทุกคนที่ลงทะเบียนไว้ในทะเบียนประชากรแห่งชาติและอาศัยอยู่ในเขตเทศบาลของนอร์เวย์จะมีสิทธิ์มีแพทย์ของตนเอง ส่วนคนที่มีเลข “D” จะไม่มีสิทธิ์มีแพทย์ โดยจะมีข้อยกเว้นบางประการ
ลูกของท่านจะมีสิทธิ์มีแพทย์แบบเดียวกันกับท่านจนอายุครบ 16 ปี
ท่านต้องจ่ายค่าธรรมเนียมผู้ใช้งาน (egenandel) เมื่อนัดพบกับแพทย์ GP ของท่าน ยอดเงินดังกล่าวจะแตกต่างกันไปตามประเภทของบริการที่แพทย์ของท่านให้บริการ แต่โดยทั่วไปแล้วจะอยู่ระหว่าง NOK 150 ถึง 375
ถ้าท่านจำเป็นต้องพบแพทย์ GP หรือต้องการเปลี่ยนแพทย์ GP ของท่าน ท่านก็สามารถทำได้ผ่านทางบริการเปลี่ยนแพทย์ GPที่นี่ที่ Helsenorge
แพทย์ทั่วไป (GP) ของท่านจะช่วยท่านได้อย่างไร?
ท่านสามารถพบแพทย์ GP ของท่านเมื่อเจ็บป่วยทางร่างกายและจิตใจเกือบทุกประเภท แพทย์ GP ของท่านจะประเมินสถานการณ์ของท่านและสามารถช่วยท่านแก้ปัญหาของท่านได้ถ้าจำเป็น นอกจากนี้แพทย์ GP ของท่านยังสามารถตรวจวินิจฉัยท่านแบบง่ายๆได้ รวมทั้งสั่งยา และออกใบรับรองการลาป่วย (sykemelding) ได้ถ้าท่านป่วยหนักจนทำงานไม่ได้
ถ้าจำเป็น แพทย์ GP ของท่านอาจส่งต่อท่านไปยังแพทย์เฉพาะทาง เช่น นักจิตวิทยา หรือการตรวจสอบเฉพาะทาง หรือการรักษาในโรงพยาบาล
มีแพทย์ GP หลายท่านให้บริการอยู่ที่ Helsenorgeล็อกอินเพื่อดูข้อมูลการติดต่อแพทย์ GP ของท่าน และดูว่าแพทย์ GP ของท่านให้บริการแบบดิจิตอลใดบ้างผ่าน Helsenorge
ทุกคนที่ทำงานในบริการดูแลสุขภาพในนอร์เวย์มีหน้าที่ต้องเก็บความลับ นั่นก็หมายความว่าข้อมูลส่วนตัวของท่านจะถูกเปิดเผยระหว่างผู้ประกอบวิชาชีพการดูแลสุขภาพที่กำลังรักษาหรือจะรักษาท่านเท่านั้น
ท่านไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวการเปิดเผยข้อมูลให้แก่ผู้ประกอบวิชาชีพการดูแลสุขภาพ ยิ่งมีข้อมูลมากเท่าไหร่ พวกเขาก็สามารถช่วยเหลือท่านได้ง่ายขึ้นเท่านั้น
ในสถานการณ์ที่ชีวิตและสุขภาพของบุคคลอาจตกอยู่ในความเสี่ยง บุคลากรการดูแลสุขภาพมีสิทธิ์ละเว้นหน้าที่การเก็บความลับนี้ได้
ท่านจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ความเจ็บป่วย และการรักษาของท่านในภาษาที่ท่านเข้าใจ ถ้าท่านพบปัญหาในการทำความเข้าใจและพูดภาษานอร์เวย์ ท่านก็มีสิทธิ์ได้รับล่ามที่พูดภาษาที่ท่านต้องการ
ท่านกำลังไปโรงพยาบาลหรือพบแพทย์เฉพาะทางหรือไม่?
การรักษาในโรงพยาบาลหรือโดยแพทย์เฉพาะทาง
ถ้าท่านจำเป็นต้องได้รับการตรวจหรือรักษาที่แพทย์ GP ของท่านไม่สามารถให้บริการได้ ท่านต้องได้รับการส่งต่อ (henvisning) การส่งต่อคือการยืนยันประเภทหนึ่งจากแพทย์ GP ของท่านที่แจ้งว่าท่านจำเป็นต้องได้รับการตรวจเพิ่มเติมอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลหรือโดยแพทย์เฉพาะทาง (spesialist)
นอกจากนี้ นักจิตวิทยา ทันตแพทย์ นักตรวจวัดสายตา นักบำบัดด้วยมือ และหมอจัดกระดูกยังสามารถส่งต่อผู้ป่วยเข้ารับการประเมินและรักษาโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในสาขาของตนได้ นักผดุงครรภ์สามารถส่งต่อผู้ป่วยเข้ารับการตรวจโดยห้องแล็บได้
โรงพยาบาลหรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่ได้รับการส่งต่อจะต้องประเมินว่าท่านมีสิทธิ์รับการตรวจหรือรักษาภายใน 10 วัน ในสถานการณ์ฉุกเฉินท่านไม่จำเป็นต้องรอรับการส่งต่อ
ถ้าท่านได้รับแจ้งว่าท่านมีสิทธิ์รับการรักษา ท่านต้องรอจนกว่าท่านจะได้รับการนัดพบแพทย์ ก็อาจใช้เวลาหลายวันหรือหลายเดือนกว่าที่ท่านจะได้รับการนัดพบแพทย์เพื่อตรวจหรือรักษา
ถ้าได้รับการตัดสินแล้วว่าท่านมีสิทธิ์ได้รับการดูแลจากบริการดูแลสุขภาพเฉพาะทาง ท่านก็มีสิทธิ์เลือกได้ว่าท่านต้องการรับการดูแลดังกล่าวหรือไม่
ท่านอาจจะเลือกระหว่างศูนย์การดูแลสุขภาพของรัฐหรือศูนย์ดูแลสุขภาพเอกชนที่ทำข้อตกลงไว้กับภาครัฐ
นอกจากนี้ท่านยังเลือกได้ว่าจะรับการรักษาบางส่วนหรือทั้งหมดที่ศูนย์ดูแลสุขภาพแห่งใด ตัวอย่างเช่น ท่านอาจจะรับการตรวจประเมินในสถานที่แห่งที่หนึ่ง แล้วรับการศัลยกรรมในสถานที่แห่งที่สอง และรับการพักฟื้นในสถานที่แห่งที่สาม
คุยกับแพทย์ GP ของท่านหรือโทรคุยกับ Veiledning Helsenorge ที่เบอร์ 23 32 70 00 ถ้าท่านต้องการคำแนะนำหรือคำปรึกษาเกี่ยวกับการเลือกสถานที่รักษา
การเปลี่ยนสถานที่รักษา
ท่านสามารถเปลี่ยนสถานที่รักษาของท่านได้ระหว่างที่ท่านกำลังอยู่ในรายชื่อการรอรักษา ในกรณีนี้ ท่านต้องติดต่อสถานที่ที่ท่านกำลังรอการรักษาอยู่และมีรายชื่ออยู่ในนั้น แล้วขอให้ส่งต่อท่านไปยังสถานที่การรักษาแห่งใหม่ที่ท่านเลือก
ท่านมีสิทธิ์ตัดสินใจว่าท่านต้องการได้รับการรักษาประเภทใด ซึ่งเรียกกันว่าการตัดสินใจร่วม (samvalg) โดยท่านจะตัดสินใจเกี่ยวกับการดูแลตัวท่านร่วมกับผู้ประกอบวิชาชีพการดูแลสุขภาพ
เวลาเข้าร่วมในกระบวนการตัดสินใจ ท่านจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของทางเลือกการรักษาและการตรวจแบบต่างๆ ท่านสามารถเปรียบเทียบและพิจารณาได้ว่าท่านรู้สึกว่ามีความสำคัญต่อท่านเพียงใด ผู้ประกอบวิชาชีพการดูแลสุขภาพจะช่วยเหลือท่านในกระบวนการนี้
นอกจากนี้ท่านยังสามารถเลือกให้ผู้ประกอบวิชาชีพการดูแลสุขภาพหรือสมาชิกครอบครัวเป็นผู้ตัดสินใจแทนท่านก็ได้
การจ่ายเงินค่าดูแลสุขภาพ
การดูแลสุขภาพมีค่าใช้จ่ายเท่าใด?
ในฐานะผู้ใหญ่ ท่านต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่ง (egenandel) เวลาที่ท่านรับบริการสาธารณสุข
นักบำบัดหลายประเภท เช่น นักกายภาพบำบัดและนักจิตวิทยา ได้ทำสัญญากับภาครัฐเอาไว้ นั่นก็หมายความว่าท่านจะจ่ายค่าธรรมเนียมผู้ใช้งาน (user fee) แล้วภาครัฐจะจ่ายส่วนที่เหลือ ให้ท่านสอบถามผู้ให้บริการดูแลสุขภาพของท่านล่วงหน้าเกี่ยวกับการจ่ายเงินและค่าใช้จ่ายต่างๆ
การดูแลผู้ป่วยในที่โรงพยาบาลนั้นฟรี แต่ถ้าท่านเป็นผู้ป่วยของคลินิกผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาล (poliklinikk) ท่านต้องจ่ายค่าธรรมเนียมผู้ใช้งานบัตรยกเว้น
เมื่อท่านจ่ายเงินค่าธรรมเนียมผู้ใช้งานมากกว่า NOK 3165 ระหว่างปี 2024 ท่านจะได้รับบัตรยกเว้น (frikort) เมื่อท่านมีบัตรยกเว้นแล้ว ท่านก็ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมผู้ใช้งานตลอดระยะเวลาที่เหลือของปีปฏิทิน
บัตรยกเว้นจะอยู่ที่ “Frikort og egenandeler” ของ Helsenorge นอกจากนี้ท่านยังสามารถเซฟหน้าจอของบัตรยกเว้นดิจิทัลของท่านหรือสั่งพิมพ์จดหมายคำตัดสินได้ถ้าท่านไม่สามารถจ่ายค่าธรรมเนียมผู้ใช้งาน ท่านก็ยังสามารถรับความช่วยเหลือได้
ถ้าท่านรับการรักษาจากศูนย์บริการดูแลสุขภาพเอกชนที่ไม่ได้ทำข้อตกลงไว้กับภาครัฐ ท่านจะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง
กรุณาตรวจสอบล่วงหน้าว่าศูนย์บริการดูแลสุขภาพที่ท่านต้องการใช้บริการนั้นมีบริการภาครัฐหรือไม่
การจ่ายค่าบริการทันตกรรม
ผู้ใหญ่ที่อายุเกิน 18 ปีจะต้องจ่ายค่าบริการทันตกรรมเอง แต่ก็มีข้อยกเว้นบางอย่าง เช่น โรคทันตกรรมบางอย่าง กรุณาสอบถามทันตแพทย์ของท่านว่าท่านมีสิทธิ์ได้รับเงินค่ารักษาบางส่วนคืนหรือไม่
ถ้าท่านอายุระหว่าง 19 ถึง 24 ปีในปีที่ท่านต้องการการรักษา ท่านอาจมีสิทธิ์รับการรักษาด้านทันตกรรมที่ราคาถูกกว่าจากศูนย์บริการสุขภาพทันตกรรมของรัฐ
ท่านสามารถรับความช่วยเหลือทางการเงินเวลาเดินทางไปหรือกลับจากสถานที่ให้การรักษาที่ได้รับสิทธิ์จากภาครัฐ โดยทั่วไปแล้ว ท่านจะได้รับความช่วยเหลือทางการเงินเป็นค่าเดินทางสำหรับผู้ป่วยในอัตราคงที่ต่อกิโลเมตร (อัตรามาตรฐาน) ไม่ว่าท่านจะใช้วิธีการเดินทางแบบใด ท่านสามารถขอรับความช่วยเหลือทางการเงินหลังจากการเดินทางของท่านสิ้นสุดลง ท่านสามารถยื่นขอแบบออนไลน์ได้ที่ Helsenorge หรือใช้แบบคำขอที่เป็นกระดาษ
ถ้าท่านไม่สามารถจัดเตรียมการเดินทางของท่านได้ด้วยตัวเองเนื่องจากเหตุผลทางสุขภาพหรือการจราจร ท่านอาจจะมีสิทธิ์ได้รับการเดินทางสำหรับผู้ป่วยที่จำเป็น (rekvirert reise) หน่วยงาน Pasientreiser (“การเดินทางสำหรับผู้ป่วย”) ก็จะจัดเตรียมการเดินทางของท่านและเลือกวิธีการเดินทางให้ท่าน ท่านน่าจะต้องรอสักระยะ และถ้าเป็นไปได้ ก็จะมีการจัดให้ผู้ป่วยหลายคนเดินทางด้วยกัน
ท่านสามารถติดต่อ Pasientreiser ได้ที่เบอร์ 05515 เพื่อขอความช่วยเหลือในการยื่นขอความช่วยเหลือทางการเงิน หรือถ้าท่านมีคำถามเกี่ยวกับการเดินทางสำหรับผู้ป่วยของท่าน
โครงการประกันสุขภาพแห่งชาติ (Folketrygden) เป็นส่วนสำคัญของรัฐสวัสดิการของนอร์เวย์และมีเป้าหมายคือเพื่อยืนยันความมั่นคงทางการเงินสำหรับผู้อยู่อาศัยในสถานการณ์ชีวิตที่แตกต่างกัน โครงการนี้จะให้การสนับสนุนทางการเงินเมื่อเกิดความเจ็บป่วย ความพิการ การตั้งครรภ์และการคลอดบุตร การว่างงาน ความสูงอายุ การเสียชีวิต และการสูญเสียผู้สร้างรายได้
ในนอร์เวย์นั้น ปกติแล้วท่านจะกลายเป็นสมาชิกโครงการประกันสุขภาพแห่งชาตินอร์เวย์โดยอัตโนมัติเมื่อท่านอาศัยอยู่ที่นี่และจ่ายภาษีให้แก่ประเทศ การจะเป็นสมาชิกนั้น ท่านต้องวางแผนที่จะอาศัยอยู่ในนอร์เวย์อย่างน้อย 12 เดือน
ท่านอาจเสียความเป็นสมาชิกโครงการประกันสุขภาพแห่งชาตินอร์เวย์ของท่านได้ถ้าท่านเดินทางออกจากนอร์เวย์ แม้จะเป็นระยะเวลาสั้นๆก็ตาม จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ท่านจะต้องศึกษากฎระเบียบที่เกี่ยวข้องถ้าท่านวางแผนจะอาศัยอยู่นอกประเทศเป็นระยะเวลานานๆ
านและความเจ็บป่วย
ในนอร์เวย์นั้น เรามีโครงการสนับสนุนแบบต่างๆหลายโครงการที่จะช่วยเหลือเรื่องรายได้ถ้าท่านไม่สามารถทำงานได้เนื่องจากความเจ็บป่วยหรือการบาดเจ็บ
นอกจากนี้ท่านยังรับความช่วยเหลือได้ถ้าท่านจำเป็นต้องได้รับการดูแล มีค่าใช้จ่ายทางการแพทย์เพิ่มเติม หรือถ้าท่านจำเป็นต้องได้รับอุปกรณ์ช่วยเหลือและการปรับตัว
สิทธิ์ที่ท่านจะได้รับนั้นจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของท่าน ท่านสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสนับสนุนทางการเงินที่อาจเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ของท่านได้จากเว็บไซต์ของ NAV: Helse og sykdom (nav.no)
การตั้งครรภ์ การคุมกำเนิด และการทำแท้ง ท่านตั้งครรภ์หรือไม่?
การตั้งครรภ์ การคลอดบุตร และการดูแลหลังคลอด
บริการดูแลสุขภาพทุกอย่างสำหรับหญิงตั้งครรภ์ และหญิงที่คลอดบุตรนั้นฟรี การคลอดบุตรในโรงพยาบาลก็ฟรีเช่นกัน
ท่านควรติดต่อกับศูนย์สาธารณสุขในพื้นที่ของท่าน (helsestasjon) หรือแพทย์ GP เพื่อติดตามผลระหว่างการตั้งครรภ์ของท่านเมื่อท่านทราบว่าท่านตั้งครรภ์
ระหว่างการตั้งครรภ์ ท่านจะได้รับข้อเสนอการนัดพบแพทย์เก้าครั้ง ซึ่งประกอบด้วยการตรวจก่อนคลอดด้วยอัลตราซาวด์ระยะแรกระหว่างสัปดาห์ที่ 11 และ 13 (+ 6 วัน) รวมทั้งอัลตราซาวด์ระหว่างสัปดาห์ที่ 17 และ 19
หลังจากท่านคลอดลูกแล้ว ท่านและลูกของท่านจะได้รับการตรวจและดูแลจากศูนย์สาธารณสุขในพื้นที่ของท่าน
ให้ท่านสอบถามแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ผดุงครรภ์ว่าควรจะติดต่อใคร อย่างไร และควรไปที่ไหนเมื่อท่านมีอาการใกล้คลอด ให้ท่านโทรแจ้งแผนกสูติกรรมเสมอเพื่อให้พวกเขาทราบว่าท่านกำลังจะคลอด ท่านสามารถดูเบอร์โทรฝ่ายสูติกรรมได้จากเว็บไซต์ของโรงพยาบาล
วิดีโอเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ การคลอดบุตร และระยะเวลาหลังคลอด
ดูวิดีโอข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ การคลอด และระยะเวลาหลังคลอด
อาหารสำหรับทารกและการให้นมบุตร
เมื่อลูกของท่านเกิด ท่านอาจมีคำถามหลายอย่างเกี่ยวกับอาหารและมื้ออาหารสำหรับลูกของท่าน ท่านมีคำถามเกี่ยวกับการให้นมบุตร นมสูตรสำหรับทารก หรืออาหารแข็งหรือไม่? ต่อไปนี้คือวิดีโอแนะนำและให้แนวทางในเรื่องนี้
การคุมกำเนิดและการทำแท้ง
ถุงยางคือการคุมกำเนิดประเภทเดียวที่ป้องกันทั้งโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการตั้งครรภ์ท่านสามารถขอรับถุงยางฟรีได้ที่นี่
คนที่อายุต่ำกว่า 22 ปีสามารถขอรับความช่วยเหลือทางการเงินสำหรับค่าใช้จ่ายการคุมกำเนิดบางส่วนหรือทั้งหมดได้
เมื่อพิจารณาว่าการคุมกำเนิดแบบใดเหมาะสำหรับท่าน ท่านควรคิดถึงเรื่องต่อไปนี้:
- การคุมกำเนิดแบบดังกล่าวทำงานอย่างไร
- ปลอดภัยเพียงใด
- ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่
- มีผลนานเท่าใด
- มีผลข้างเคียงใดบ้าง
ท่านสามารถติดสินใจได้ว่าท่านต้องการทำแท้งได้จนถึงสัปดาห์ที่ #12 ของการตั้งครรภ์ของท่าน ให้เริ่มนับตัวเลขสัปดาห์จากวันแรกของประจำเดือนรอบสุดท้ายของท่าน
การทำแท้งนั้นฟรีสำหรับผู้อยู่อาศัยทุกคนในนอร์เวย์
วิธีการทำแท้ง
มีสองวิธีให้ท่านเลือกในการยุติการตั้งครรภ์: นั่นก็คือการผ่าตัดหรือการใช้ยา
ท่านต้องการคำปรึกษาและคำแนะนำหรือเปล่า?
อาจเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินใจว่าจะยุติการตั้งครรภ์หรือไม่ ถ้าท่านต้องการคุยกับใครสักคน ท่านสามารถโทรมาหาAmathea ได้ซึ่งเป็นบริการให้คำปรึกษาฟรีภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาล
เด็กและวัยรุ่น
การดูแลสุขภาพสำหรับเด็กและวัยรุ่น
เด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีไม่ต้องจ่ายค่าบริการดูแลสุขภาพเมื่อรับบริการจากภาครัฐ
เด็กและวัยรุ่นที่อายุต่ำกว่า 18 ปีมีสิทธิ์ได้รับบริการทันตกรรมฟรีที่คลินิกทันตกรรมของรัฐ ยกเว้นบริการเหล็กดัดฟัน (การจัดฟัน)
นอกจากนี้ บุคคลอื่นก็อาจมีสิทธิ์ได้รับการรักษาทันตกรรมที่ฟรีหรือถูกกว่าปกติได้ ตัวอย่างเช่น เยาวชนบางประเภทที่อายุเกิน 18 ปี
ศูนย์สาธารณสุขสำหรับเด็กอายุ 0-5 ปี
ศูนย์สาธารณสุขสำหรับเด็กอายุ 0-5 ปีจะให้บริการฟรีสำหรับเด็กและพ่อแม่ในเขตเทศบาลที่พวกเขาอาศัยอยู่ ที่ศูนย์สาธารณสุขนั้น ท่านสามารถรับความช่วยเหลือและคำปรึกษาจากพยาบาลสุขภาพ แพทย์ และนักกายภาพบำบัดได้
ท่านสามารถนัดพบแพทย์ได้ 14 ครั้งนับตั้งแต่ลูกของท่านเกิดจนเด็กเริ่มเข้าโรงเรียน ที่ศูนย์สาธารณสุขนั้น ลูกของท่านจะได้รับการตรวจร่างกาย ได้รับข้อเสนอให้ฉีดวัคซีนผ่านโครงการภูมิคุ้มกันสำหรับเด็ก รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับหลากหลายเรื่อง
ท่านสามารถติดต่อหรือแวะไปที่ศูนย์สาธารณสุขเมื่อใดก็ได้ แม้ว่าจะไม่ได้นัดหมายไว้ก็ตาม ท่านน่าจะหาข้อมูลการติดต่อของศูนย์สาธารณสุขได้จากเว็บไซต์ของเทศบาลของท่าน
บริการสุขภาพของโรงเรียน
บริการสุขภาพของโรงเรียนนั้นฟรีสำหรับนักเรียนทุกคนในระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย
บริการสุขภาพของโรงเรียนประกอบด้วยการตรวจสุขภาพเป็นประจำ การตรวจสุขภาพและการฉีดวัคซีน นอกจากนี้ท่านยังสามารถติดต่อได้เมื่อจำเป็น
ศูนย์สาธารณสุขสำหรับเยาวชน
ศูนย์สาธารณสุขสำหรับเยาวชน (Helsestasjon for ungdom, HFU) จะให้บริการสุขภาพฟรีแก่เยาวชนที่อายุระหว่าง 12 ถึง 20 ปี มีศูนย์บริการสุขภาพแบบนี้หลายแห่งที่ขยายบริการถึงอายุสูงสุด 25 ปี
ที่ HFU ท่านสามารถรับความช่วยเหลือและคำปรึกษาจากพยาบาลสุขภาพหรือแพทย์ได้ และศูนย์บางแห่งก็มีเจ้าหน้าที่ผดุงครรภ์และนักจิตวิทยาด้วย
ที่ HFU ท่านสามารถขอคำปรึกษาเกี่ยวกับหัวข้อต่างๆ เช่น สุขภาพร่างกาย เพศ และสุขภาพจิตได้ ท่านสามารถเข้ารับการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และรับบริการคุมกำเนิดได้
หากต้องการค้นหาศูนย์สาธารณสุขที่ใกล้ท่านที่สุด ให้ดูข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ของเทศบาลของท่าน
บุคลากรการดูแลสุขภาพทุกคนมีหน้าที่ในการเก็บความลับ ซึ่งก็หมายความว่าพวกเขาไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับท่านให้ผู้อื่นรู้ได้
ในเกือบทุกกรณี ถ้าท่านอายุไม่ถึง 12 ปี พยาบาลสุขภาพต้องแจ้งให้พ่อแม่ของท่านทราบว่าท่านมาใช้บริการสุขภาพของโรงเรียนและเปิดเผยว่าท่านพูดคุยเรื่องอะไรบ้าง
ถ้าท่านอายุระหว่าง 12 ถึง 16 ปี ท่านสามารถขอบุคลากรการดูแลสุขภาพไม่ให้เปิดเผยข้อมูลทั้งหมดแก่พ่อแม่ของท่านได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นเรื่องร้ายแรง บุคลากรการดูแลสุขภาพอาจต้องเปิดเผยข้อมูลให้พ่อแม่ของท่านทราบ
เมื่อท่านอายุครบ 16 ปี ท่านจะสามารถตัดสินใจได้ว่าควรเปิดเผยสิ่งที่ท่านพูดคุยกับบุคลากรดูแลสุขภาพให้พ่อแม่ของท่านทราบหรือไม่ ข้อมูลดังกล่าวจะไม่ถูกเปิดเผยให้พ่อแม่ของท่านทราบโดยที่ท่านไม่ยินยอม (samtykke)
บางครั้งบุคลากรการดูแลสุขภาพก็จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลให้พ่อแม่ของท่านทราบแม้ว่าท่านจะอายุเกิน 16 ปีแล้วก็ตาม ซึ่งหมายถึงในสถานการณ์ที่ข้อมูลดังกล่าวมีความจำเป็นต่อการที่พ่อแม่ของท่านจะบรรลุความรับผิดชอบในฐานะพ่อแม่ได้
ในบางกรณี บุคลากรการดูแลสุขภาพอาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับท่านให้ผู้อื่นทราบ เช่น หน่วยงานคุ้มครองเด็กหรือตำรวจ เช่นในสถานการณ์ที่ท่านมีความเสี่ยงจะเป็นอันตรายต่อตัวท่านเองหรือผู้อื่น หรือเมื่อท่านประสบกับสถานการณ์ที่ลำบากอย่างชัดเจนที่บ้าน
เยาวชนที่อายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไปสามารถล็อกอินเข้าสู่แอพ Helsenorge โดยใช้ MinID ได้ ที่นี่ท่านจะพบกับศูนย์สาธารณสุขที่ใกล้ที่สุดสำหรับเยาวชน และดูว่าแพทย์ GP ของท่านเป็นใคร ในเขตเทศบาลบางแห่ง เยาวชนที่อายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไปสามารถนัดพบพยาบาลสุขภาพที่โรงเรียนได้ นอกจากนี้ พยาบาลสุขภาพยังสามารถให้ข้อมูลภาคปฏิบัติเกี่ยวกับบริการสุขภาพของโรงเรียนและข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพโดยทั่วไปได้
เมื่อท่านอายุครบ 12 ปี พ่อแม่ของท่านจะมีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลสุขภาพส่วนตัวของท่านที่ Helsenorge น้อยลง
เมื่ออายุครบ 16 ปี ท่านจะสามารถล็อกอินเข้าสู่ Helsenorge และติดต่อออนไลน์แบบปลอดภัยกับพยาบาลสุขภาพได้ ท่านต้องล็อกอินด้วย BankID, Buypass หรือ Commfides พ่อแม่ของท่านจะไม่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลของท่านบน Helsenorge อีกต่อไป ตอนนี้ท่านจะสามารถใช้ Helsenorge ด้วยตัวท่านเองได้แล้ว หรือท่านจะให้อนุญาตแก่พ่อแม่ของท่านให้มีสิทธิ์ใช้ Helsenorge ร่วมกันท่านต่อก็ได้
สุขภาพจิต
สุขภาพจิต
ทุกคนมีสุขภาพกายและจิต สุขภาพกายและจิตของท่านมีความเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด และจะส่งผลกระทบต่อกันและกันได้
สุขภาพกายเป็นเรื่องเกี่ยวกับสภาพร่างกายของท่าน สุขภาพจิตจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความคิดและอารมณ์ของท่าน ความรู้สึกที่ท่านมีต่อตัวเอง และวิธีการที่ท่านรับมือกับความสัมพันธ์และชีวิตประจำวัน
สุขภาพจิตที่ดีหมายถึงความรู้สึกพอใจในชีวิตของตน มีความรู้สึกเป็นเจ้าของและมีความหมายในชีวิต และสามารถรับมือกับปัญหาทั่วไปที่อาจเกิดขึ้นได้
การดิ้นรนกับสิ่งต่างๆคือเรื่องปกติ
ความรู้สึกในจิตใจของท่านอาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวัน และเมื่อเวลาผ่านไป เกือบทุกคนจะพบว่าสุขภาพจิตของตนเปลี่ยนแปลงไปตลอดชีวิตของตน การมีความท้าทายด้านสุขภาพจิตในบางเวลานั้นไม่ได้หมายความว่าท่านมีสุขภาพจิตที่ไม่ดีหรือมีความผิดปกติของสุขภาพจิต
ความท้าทายที่พบบ่อยในชีวิตประจำวันนั้นอาจเกี่ยวข้องกับ:
- ความวิตกกังวลอย่างรุนแรงหรือต่อเนื่อง
- ความรู้สึกซึมเศร้าหรือเสียใจ
- ความรู้สึกเครียดและวิตกกังวล
- ความรู้สึกเหงา
- มีปัญหาในการนอนหลับ
เมื่อประสบกับความลำบาก อาจช่วยได้ถ้าจะพูดคุยกับใครสักคนว่าท่านรู้สึกอย่างไร การพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาของท่านนั้นมักจะเป็นก้าวแรกของความรู้สึกที่ดีขึ้น บ่อยครั้งที่เพียงพอแล้วถ้าท่านจะคุยกับคนที่ท่านรู้จัก เช่น สมาชิกครอบครัวหรือเพื่อน หรือคนที่ท่านไว้ใจ เช่น เพื่อนร่วมงานหรือคุณครู
ท่านควรขอความช่วยเหลือเมื่อความคิด ความรู้สึก หรือการกระทำของท่านสร้างปัญหาให้ท่านในการใช้เวลากับเพื่อนและครอบครัว หรือในการทำสิ่งต่างๆที่ท่านทำในชีวิตประจำวันตามปกติ และเมื่อท่านรู้สึกว่าท่านไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ด้วยตัวเอง
บางทีความรู้สึกทางจิตใจจะส่งผลต่อร่างกายของเราได้ ท่านจึงควรขอความช่วยเหลือเมื่อท่านรู้สึกปวดศีรษะหรือปวดท้องบ่อยๆ หรือเมื่อท่านประสบปัญหาในการนอนหลับเป็นระยะเวลานาน
ท่านจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตหรือไม่?
ท่านสามารถรับความช่วยเหลือจากแพทย์ GP ของท่าน พยาบาลสุขภาพ ศูนย์สาธารณสุข หรือศูนย์บริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน แพทย์จะสามารถส่งต่อท่านไปยังนักจิตวิทยาได้ถ้าจำเป็น
เทศบาลหลายแห่งให้บริการแบบเข้าถึงได้ง่าย เช่น การดูแลสุขภาพจิตแบบทันที กรุณาดูเว็บไซต์ของเทศบาลของท่านว่ามีบริการใดใกล้ท่านบ้าง
ท่านจำเป็นต้องคุยกับใครสักคนในตอนนี้?
ถ้าท่านจำเป็นต้องคุยกับใครสักคนในตอนนี้ มีหลายที่ที่สามารถช่วยท่านได้
ถ้าท่านจำเป็นต้องระบายความรู้สึกและความคิดที่ยากลำบากของท่าน หรือต้องการคำปรึกษาและการสนับสนุน ท่านสามารถโทรไปที่:
- สายด่วน Mental Helse (สุขภาพจิต): 116 123
- Kirkens SOS: 22 40 00 40
- สายด่วนฉุกเฉินสำหรับเด็กและเยาวชน: 116 111
- Kors på halsen (กาชาด)
นอกจากนี้ท่านยังสามารถแชตที่ sidetmedord.no https://www.sidetmedord.no/หรือsoschat.no ก็ได้
เบอร์โทรและแชตไซต์เหล่านี้เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมงและท่านจะไม่เปิดเผยตัวตนของท่านก็ได้
ถ้าท่านจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ให้โทรไปศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินที่เบอร์ 116 117 หรือเบอร์ฉุกเฉิน 113
ท่านจะทำอะไรได้บ้างถ้าท่านคิดฆ่าตัวตาย?
หลายคนเคยคิดฆ่าตัวตายระหว่างช่วงหนึ่งของชีวิต เหตุผลก็มักจะซับซ้อน ความคิดฆ่าตัวตายอาจเกิดขึ้นโดยเกี่ยวข้องกับความเครียดในชีวิต เช่น ปัญหาในความสัมพันธ์ ความขัดแย้ง ความเจ็บป่วย ปัญหาในที่ทำงาน ความยากลำบากทางการเงิน ปัญหาด้านสุขภาพจิต หรือความผิดปกติด้านสุขภาพจิตอย่างเช่นอาการซึมเศร้า
อาจเป็นเรื่องยากที่จะพูดคุยเกี่ยวกับความคิดฆ่าตัวตายกับคนอื่น ท่านอาจรู้สึกหมดหนทางและไม่มีคำตอบสำหรับปัญหาของท่าน
ถ้าท่านรู้สึกว่าท่านไม่สามารถไปต่อได้ ลองให้โอกาสใครสักคนทำความเข้าใจความรู้สึกของท่าน คุยกับคนที่ท่านไว้ใจ เช่น สมาชิกครอบครัว เพื่อนสนิท แพทย์ของท่าน พยาบาลของโรงเรียนหรือพยาบาลสุขภาพ คุณครู อิหม่าม หรือนักบวช ถ้าท่านต้องการคุยแบบไม่เปิดเผยชื่อ ท่านก็สามารถติดต่อสายด่วนหรือบริการแชตได้ การคุยกับใครสักคนสามารถช่วยท่านหาคำตอบได้ นี่คือก้าวแรกของการค้นหาว่าปัญหาคืออะไร
โทรเบอร์ 113 ถ้าความคิดของท่านรุนแรงมาก และท่านรู้สึกว่ามีความเสี่ยงที่ท่านจะทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย เมื่อท่านโทรมา ท่านจะได้รับความช่วยเหลือทันที และคนที่ท่านพูดคุยด้วยก็จะทำให้แน่ใจว่าท่านจะได้รับความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง
ท่านควรทำอย่างไรถ้าท่านเชื่อว่ามีคนกำลังคิดฆ่าตัวตาย?
ถ้าท่านรู้จักคนที่ท่านคิดว่าอาจกำลังมีความคิดฆ่าตัวตาย เป็นเรื่องสำคัญที่ท่านจะต้องกล้าที่จะเอาใจใส่และเริ่มต้นการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้
อาจเป็นเรื่องยากที่จะถามใครเกี่ยวกับความคิดฆ่าตัวตาย หลายคนกลัวว่าการถามเรื่องความคิดฆ่าตัวตายจะเพิ่มความเสี่ยงในการฆ่าตัวตาย นั่นเป็นเรื่องไม่จริงเลย ไม่มีหลักฐานที่ยืนยันว่าการพูดคุยเกี่ยวกับความคิดฆ่าตัวตายนั้นเป็นเรื่องอันตราย หรืออาจส่งเสริมความคิดฆ่าตัวตาย
ถ้ามีคนบอกท่านว่าเขากำลังคิดฆ่าตัวตาย ท่านต้องใส่ใจอย่างจริงจัง การรับฟังเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่ท่านจะทำได้ ปล่อยให้บุคคลนั้นแบ่งปันความคิดให้ท่านฟังโดยไม่แย้งเขามากเกินไป
บ่อยครั้งที่เรารู้สึกเหงาเวลามีความคิดฆ่าตัวตาย และอาจนำไปสู่ความรู้สึกสิ้นหวัง เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องไม่ด่วนตัดสินใคร แต่ควรจะแสดงความอดทน เอาใจใส่ และช่วยเหลือ
การอยู่ท่ามกลางวิกฤตินั้นอาจทำให้รู้สึกหนักอึ้ง ท่านสามารถช่วยคนที่คิดฆ่าตัวตายได้โดยติดต่อกับเขาและอาจจะเสนอตัวพาพวกเขาไปพบแพทย์ GP, ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน หรือศูนย์ดูแลสุขภาพอื่น ท่านสามารถติดต่อบริการการแพทย์ฉุกเฉินหรือแพทย์ GP ของท่านเพื่อขอคำปรึกษาและคำแนะนำได้ถ้าท่านไม่แน่ใจ
โทรเบอร์ 113 ถ้าท่านกังวลว่าใครบางคนจะฆ่าตัวตาย
ท่านเป็นญาติหรือเปล่า?
เมื่อมีคนในครอบครัวของท่านกำลังเป็นทุกข์กับความเจ็บป่วยที่รุนแรงหรือเรื้อรัง ประเภทความช่วยเหลือที่พวกเขาได้รับนั้นจะสร้างความแตกต่างได้อย่างมากต่อท่านในฐานะสมาชิกครอบครัวที่ใกล้ชิดและญาติที่ใกล้ชิดที่สุด อย่างไรก็ตาม คุณภาพชีวิตของท่านก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน และท่านควรขอคำปรึกษาและการสนับสนุนก่อนปัญหาจะหนักจนทนไม่ไหว
สมาชิกครอบครัว
สมาชิกครอบครัวที่มีภาระงานดูแลที่หนักนั้นอาจมีสิทธิ์รับการดูแลแทนหรือความช่วยเหลือรูปแบบอื่นได้.
ท่านสามารถรับความช่วยเหลือต่อไปนี้จากเทศบาลของท่านได้:
- การให้ความรู้และคำแนะนำ
- การดูแลทดแทนชั่วคราว
- ความช่วยเหลือทางการเงินสำหรับผู้ดูแล (omsorgsstønad)
ท่านมีสิทธิ์พิเศษที่จะได้รับการดูแลทดแทนถ้าท่าน:
- เป็นพ่อแม่ของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
- คู่ครองหรือแฟนของบุคคลที่ต้องการการดูแลอย่างมาก
ตัวอย่างสถานการณ์ที่ท่านสามารถรับความช่วยเหลือได้:
- ท่านทำงานดูแลหลายชั่วโมงในหนึ่งเดือน
- การดูแลสร้างความเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ
- งานการดูแลทำให้ท่านไม่ได้นอนหรือต้องตื่นในช่วงกลางดึกบ่อยๆ
ท่านสามารถขอความช่วยเหลือจากเทศบาลของท่านได้ ทั้งผู้ได้รับการดูแลและผู้ให้การดูแลสามารถขอความช่วยเหลือได้ ท่านสามารถดูข้อมูลการยื่นขอความช่วยเหลือได้จากเว็บไซต์ของเทศบาลของท่านหรือติดต่อกับเทศบาลของท่าน
ที่ Helsenorge นั้น ท่านสามารถใช้บริการแทนผู้อื่นได้ ตัวอย่างเช่น ช่วยคนอื่นติดตามข้อมูลสุขภาพของพวกเขา
บุคคลที่ท่านสามารถเป็นตัวแทนได้นั้นได้แก่:
- บุคคลที่ได้อนุญาตแก่ท่านให้เข้าถึงข้อมูลของพวกเขา ไม่ว่าจะทำบนเว็บไซต์ Helsenorge หรือด้วยคำขอแบบเป็นกระดาษ
- ลูกของท่านที่อายุไม่ถึง 16 ปีที่ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบในฐานะพ่อแม่
- บุคคลที่ไม่สามารถให้ความยินยอมได้ ที่ท่านได้รับอนุญาตให้กระทำการแทนเขาได้
ไม่ว่าท่านจะเป็นตัวแทนของใครที่ Helsenorge ท่านจะไม่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลได้มากกว่าที่บุคคลนั้นมีสิทธิ์เข้าถึงได้ด้วยตัวเอง และท่านก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้บริการที่บุคคลดังกล่าวไม่ได้รับหรือยังไม่ได้ยินยอมที่จะรับ
ท่านต้องอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปจึงจะอนุญาตให้คนอื่นใช้บริการของ Helsenorge แทนท่านได้ ท่านต้องอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปจึงจะรับอนุญาตดังกล่าวได้
ทั้งผู้ให้และผู้รับอนุญาตมีสิทธิ์ยกเลิกการอนุญาตเมื่อใดก็ได้
ถ้ามีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ท่านจะอุ่นใจได้ถ้ารู้ว่าท่านได้อนุญาตให้ใครสักคนที่ห่วงใยท่านให้สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของท่านได้
ที่ข้อมูลการติดต่อของท่านที่ Helsenorgeท่านจะสามารถล็อกอินและลงทะเบียนญาติที่ใกล้ชิดที่สุดของท่านได้ และระบุได้ว่าจะติดต่อญาติของท่านได้อย่างไร
บริการดูแลสุขภาพของนอร์เวย์เป็นอย่างไร
บริการดูแลสุขภาพในนอร์เวย์มีโครงสร้าง
บริการดูแลสุขภาพพื้นฐาน – การดูแลสุขภาพในเทศบาลของท่าน
ท่านต้องติดต่อศูนย์บริการดูแลสุขภาพพื้นฐาน (primærhelsetjenesten) ก่อนถ้าท่านเจ็บป่วยหรือจำเป็นต้องได้รับการดูแลสุขภาพประเภทอื่น ซึ่งปกติแล้วก็คือแพทย์ GP, ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน หรือศูนย์สาธารณสุข
เทศบาลของท่านมีหน้าที่จัดหาบริการสุขภาพเหล่านี้ให้แก่ท่าน นี่คือเหตุผลว่าทำไมบริการดูแลสุขภาพพื้นฐานจึงมักจะถูกเรียกชื่อว่าเป็นบริการสุขภาพและการดูแลของเทศบาล
บริการสุขภาพและการดูแลของเทศบาลประกอบด้วย:
- แพทย์ทั่วไป (GP)
- ศูนย์สาธารณสุข
- ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน
- ศูนย์พยาบาล
- การดูแลที่บ้าน
- ศูนย์บำบัดยาเสพติด
- นักกายภาพบำบัด
- นักกิจกรรมบำบัด
- นักพยาธิวิทยาด้านการพูดและภาษา
- หมอจัดกระดูก
- ศูนย์สุขภาพชีวิต (frisklivsentralen)
- ทันตแพทย์
หากท่านต้องการการตรวจหรือการรักษาเพิ่มเติม แพทย์ GP ของท่านหรือศูนย์ดูแลสุขภาพของเทศบาลจะส่งต่อท่านไปยังศูนย์บริการดูแลสุขภาพเฉพาะทาง (spesialisthelsetjenesten) ตัวอย่างเช่น ท่านอาจต้องถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลหรือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่มีสถานที่ของพวกเขาเอง เช่น นรีแพทย์หรือจักษุแพทย์
ในนอร์เวย์ บริการดูแลสุขภาพเฉพาะทางจะแบ่งออกเป็นสี่ภูมิภาค:
- Helse Midt
- Helse Nord
- Helse Sør-Øst
- Helse Vest
บริการดูแลสุขภาพเฉพาะทางได้แก่:
- โรงพยาบาล
- คลินิกผู้ป่วยนอกและศูนย์รักษา ซึ่งท่านจะได้รับการรักษาโดยไม่ต้องค้างคืน
- ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ (หรือเรียกว่าผู้เชี่ยวชาญตามสัญญา) ซึ่งจะชำนาญด้านสาขาทางการแพทย์เฉพาะทางอันใดอันหนึ่ง
- ห้องแล็บและศูนย์lเอ็กซเรย์
- สถาบันพักฟื้นและฟื้นฟู
- โรงพยาบาลจิตเวช
- ศูนย์บำบัดยาเสพติด
ท่านมีสิทธิ์ร้องเรียนได้ถ้าท่านไม่พอใจกับการรักษาหรือบริการที่ท่านได้รับ หรือถ้าคำขอการรักษาหรือบริการของท่านถูกปฏิเสธ นอกจากนี้ สมาชิกครอบครัวก็สามารถยื่นร้องเรียนได้ด้วย
การอุทธรณ์การดำเนินเรื่องและคำตัดสิน
ถ้าท่านรู้สึกว่าท่านได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดีหรือไม่เป็นธรรมโดยแพทย์ โรงพยาบาล พยาบาลแบบดูแลที่บ้าน หรือบุคลากรอื่น ท่านสามารถยื่นร้องเรียนได้
นอกจากนี้ท่านยังอุทธรณ์คำตัดสินได้ถ้าท่านไม่เห็นด้วย เช่น ถ้าท่านถูกปฏิเสธการรักษาหรือการส่งต่อเพื่อรับการรักษา
ท่านสามารถส่งคำร้องเรียนหรืออุทธรณ์ของท่านไปยังสำนักงานของแพทย์ โรงพยาบาล หรือศูนย์การรักษาที่ท่านต้องการร้องเรียนได้ นอกจากนี้ ถ้าท่านไม่สามารถตกลงหรือหาข้อยุติได้ คำอุทธรณ์ของท่านก็จะถูกส่งต่อโดยอัตโนมัติไปยังผู้ว่าการเขตการร้องเรียนเกี่ยวกับการทำผิดและการบาดเจ็บ
ถ้าท่านเชื่อว่าท่านได้รับผลกระทบจากการรักษาหรือการดูแลที่ไม่ดีหรือไม่เหมาะสม ท่านสามารถขอให้ผู้ว่าการเขตเปิดคดีเพื่อตรวจสอบเรื่องดังกล่าวได้
ท่านสามารถร้องเรียนได้ถ้าท่านเชื่อว่าท่าน:
- ได้รับการรักษาที่ผิดพลาด
- ได้รับยาผิดหรือขนาดยาที่ผิด หรือได้รับผลข้างเคียงอย่างรุนแรงจากยาของท่าน
- ถูกยกเลิกการดูแลก่อนเวลาอันควร
- ไม่พอใจกับการดูแลที่ท่านได้รับ
ถ้าท่านได้รับบาดเจ็บเนื่องจากการรักษาที่ไม่ดีหรือไม่เหมาะสมของผู้ให้บริการดูแลสุขภาพ ท่านมีสิทธิ์ยื่นขอรับค่าชดเชยได้ ท่านสามารถยื่นขอค่าชดเชยได้ถ้าการบาดเจ็บนั้นรุนแรงและถาวร หรือทำให้เกิดความสูญเสียทางการเงินอย่างหนัก ท่านต้องยื่นขอต่อระบบค่าชดเชยการบาดเจ็บของผู้ป่วยแห่งนอร์เวย์ Norsk pasientskadeerstatning (NPE)
การร้องเรียนการรักษาในต่างประเทศ
ท่านสามารถร้องเรียนการรักษาที่ท่านได้รับในต่างประเทศได้ก็ต่อเมื่อท่านได้รับการรักษาดังกล่าวผ่านทางข้อตกลงระหว่างผู้ให้บริการสุขภาพในนอร์เวย์กับผู้ให้การรักษาดังกล่าว ตัวอย่างเช่น เมื่อท่านได้รับการรักษาในต่างประเทศจากการรับประกันรายชื่อการรอ หรือเมื่อไม่มีผู้ให้บริการที่มีความสามารถเพียงพอในนอร์เวย์
ถ้าท่านได้รับการรักษาในต่างประเทศโดยท่านเลือกใช้บริการเอง ท่านจะไม่มีสิทธิ์ยื่นร้องเรียนหรือยื่นขอค่าชดเชยในนอร์เวย์
การร้องเรียนบริการทันตกรรม
ท่านสามารถยื่นร้องเรียนเกี่ยวกับการรักษาทางทันตกรรมได้ถ้าท่านเชื่อว่าท่านได้รับการรักษาที่ไม่เหมาะสม ให้ท่านสอบถามสำนักงานทันตกรรมของท่านว่าต้องส่งคำร้องเรียนไปที่ใด
ญาติที่ใกล้ชิดที่สุด
ในฐานะสมาชิกครอบครัวหรือญาติที่ใกล้ชิดที่สุด ท่านสามารถยื่นร้องเรียนได้ถ้าท่านรู้สึกว่าท่านถูกละเมิดสิทธิ์ นอกจากนี้ท่านยังสามารถร้องเรียนแทนเพื่อนหรือครอบครัวที่ไม่สามารถยื่นร้องเรียนได้ด้วยตัวเอง ปกติแล้วท่านต้องได้รับหนังสือมอบอำนาจจากผู้ป่วยถ้าท่านต้องการร้องเรียนแทนพวกเขา
ต้องการความช่วยเหลือด้านการร้องเรียนหรือไม่?
ท่านสามารถติดต่อคณะกรรมการสุขภาพและบริการสังคม(pasient- og brukerombudet)ได้ถ้าท่านกำลังตัดสินใจว่าจะร้องเรียนหรือไม่ คณะกรรมการสามารถแนะนำเกี่ยวกับสิทธิ์ของท่านและสิ่งที่ท่านควรทำได้ พวกเขายังสามารถช่วยท่านเขียนคำร้องเรียนได้อีกด้วย